06 ตุลาคม, 2552

Perfect Tense (2)

Perfect Tense (2) ( Present Perfect Tence, Present Perfect Progressive Tense )

• Present Perfect Tense •
-ประโยค Present Perfect Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : Subject + have , has + Verb 3
( ประธาน + have , has + กริยาช่อง 3 )
ตัวอย่าง : 1. I have studied English for 5 years.( ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว )
2. He has lived in Bangkok since 1990.( เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
-ประโยค Present Perfect Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง Verb to have ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + have , has + not + Verb 3
( ประธาน + have , has + not + กริยาช่อง 3 )
ตัวอย่าง : 1. I have not studied English for 5 years.( ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี )
2. He has not lived in Bangkok since 1990.( เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
-ประโยค Present Perfect Tense เชิงคำถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถามให้นำ Verb to have มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Have, Has + Subject + Verb 3 ?
(Have, Has + ประธาน + กริยาช่อง 3 ? )
ตัวอย่าง : 1.Have you studied English for 5 years ?( คุณเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้วใช่หรือไม่ )
-Yes, I have. ( ใช่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว )
-No, I haven’t. ( ไม่ ฉันเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ถึง 5 ปี )
2. Has he lived in Bangkok since 1990 ?( เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 ใช่หรือไม่ )
-Yes, he has. (ใช่ เขาอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 )
-No, he hasn’t. ( ไม่ เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 )
-หลักการใช้ Present Perfect Tense
1. ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และเหตุการณ์นั้นยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เช่น
-Somchai has studied English for 5 years. ( สมชายเรียนภาษาอังกฤษมา 5 ปีแล้ว ขณะนี้ก็ยังเรียนอยู่ )

-I have worked in this company since 1990. ( ฉันทำงานในบริษัทนี้ตั้งแต่ปี 1990 ขณะนี้ก็ยังทำอยู่ )
2. ใช้กับเหตุการณ์ที่เคยหรือไม่เคยทำในอดีต ซึ่งมิได้บ่งบอกเวลาที่แน่นอนเอาไว้ และมักจะมีคำวิเศษณ์ คือ ever, never, once, twice มาใช้ร่วมเสมอ เช่น
- I have never seen him before. ( ฉันไม่เคยเห็นเข้ามาก่อน )
- Have you ever been abroad ?( คุณเคยไปต่างประเทศหรือเปล่า )
- She has been to Bangkok twice. ( หล่อนเคยไปกรุงเทพฯ 2 ครั้ง )

............................................................

• Present Perfect Progressive Tense •
-ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงบอกเล่า
โครงสร้าง : Subject + have , has + been + Verb 1 ing
( ประธาน + have , has + been + กริยาช่อง 1 เติม ing )
ตัวอย่าง : 1. He has been speaking for 3 hours. ( เขาพูดมา 3 ชั่วโมงแล้ว )
2. They have been playing football for 2 hours. ( เขาทั้งหลายเล่นฟุตบอลมา 2 ชั่วโมงแล้ว )
-ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงปฏิเสธ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Progressive Tense ให้มีความหมายเชิงปฏิเสธให้เติม not หลัง Verb to have ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Subject + have , has + not + been + Verb 1 ing
(ประธาน+have, has+not + been+ กริยาช่อง 1 เติม ing )
ตัวอย่าง : 1. He has not been speaking for 3 hours. ( เขาพูดมาไม่ถึง 3 ชั่วโมง )
2. They have not been playing football for 2 hours.( เขาทั้งหลายเล่นฟุตบอลมาไม่ถึง 2 ชั่วโมง )
- ประโยค Present Perfect Progressive Tense เชิงคำถามและการตอบ
เมื่อต้องการแต่งประโยค Present Perfect Progressive Tense ให้มีความหมาย เชิงคำถามให้นำ Verb to have มาวางไว้หน้าประโยค และตอบด้วย Yes หรือ No ซึ่งมีโครงสร้างดังนี้
โครงสร้าง : Have , Has + Subject +been + Verb 1 ing ?
(Have, Has + ประธาน + been + กริยาช่อง 1 เติม ing ?)
ตัวอย่าง : 1. Has he been speaking for 3 hours ?( เขาพูดมาตลอด 3 ชั่วโมงใช่หรือไม่ )
-Yes , he has. ( ใช่ เขาพูดมาตลอด 3 ชั่วโมง )
- No, he hasn’t . ( ไม่ เขาพูดมาไม่ถึง 3 ชั่วโมง )
2. Have they been playing football for 2 hours ? ( เขาทั้งหลายเล่นฟุตบอลมาตลอด 2 ชั่วโมงใช่หรือไม่ )
- Yes, they have. ( ใช่ เขาเล่นมาตลอด 2 ชั่วโมง )
- No, they haven’t . (ไม่ เขาเล่นมาไม่ถึง 2 ชั่วโมง )
-หลักการใช้ Present Perfect Progressive Tense
1. ใช้กับการกระทำหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และจะดำเนินต่อไปอีกในอนาคต (Present Perfect Progressive Tense ใช้เหมือน Present Perfect Tense ต่างกันแต่เพียงว่า Present Perfect Progressive Tense เน้นความต่อเนื่องไปถึงอนาคต )

ขอบคุณข้อมูลจาก http://suphat.igetweb.com

ธนศักดิ์ อ้วนนวล
52050871
วิทยาศาสตร์ เคมีทรัพยากรสิ่งแวดล้อม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น